ตามหลักฐานทางวรรณคดีไทย กลอน 4 ที่เก่าที่สุดพบในมหาชาติคำหลวงกัณฑ์มหาพน (สมัยอยุธยา)
แต่ต่อมาไม่ปรากฏในวรรณคดีไทยมากนัก มักแทรกอยู่ตามกลอนบทละครต่าง ๆ
ตัวอย่างกลอน 4 ในวรรณคดีไทยที่พบมี 2 แบบ คือ
กลอน 4 แบบที่ 1
คณะ กลอน 4 แบบนี้ บทหนึ่งจะประกอบด้วย 2 บท บทละ 2 วรรค วรรคละ 4 คำ
ตามผัง
O
O O O
|
O
O O O
|
|
O
O O O
|
O
O O O
|
สัมผัส แบบกลอนทั่วไป คือ คำสุดท้ายวรรคหน้าสัมผัสกับคำที่สองของวรรคหลัง
และคำสุดท้ายวรรคที่สองสัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่สาม
ส่วนสัมผัสระหว่างบทก็เช่นเดียวกัน คือ คำสุดท้ายวรรคที่สี่ของบทแรก
สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่สองของบทถัดไป (ดูตัวอย่าง)
ตัวอย่าง กลอน 4 แบบที่ 1
เหวยเหวยอีจันทรา
|
ขึ้นหน้าเถียงผัว
|
|
อุบาทว์ชาติชั่ว
|
ไสหัวมึงไป
|
นางจันทาเถียงเล่า
|
พระองค์เจ้าหลงใหล
|
|
ไล่ตีเมียไย
|
พระไม่ปรานี
|
เมียผิดสิ่งใด
|
พระไล่โบยตี
|
|
หรือเป็นกาลี
|
เหมือนที่ขับไป
|
|
— บทละครครั้งกรุงเก่า เรื่อง สังข์ทอง
|
กลอน 4 แบบที่ 2
คณะ กลอน 4 แบบนี้ บทหนึ่งประกอบด้วย 4 บาท บาทละ 2 วรรค วรรคละ 4 คำ
ตามผัง
O
O O O
|
O
O O O
|
|
O
O O O
|
O
O O O
|
O
O O O
|
O
O O O
|
|
O
O O O
|
O
O O O
|
สัมผัสนอก ในทุกบาท คำสุดท้ายของวรรหน้า สัมผัสกับคำที่สองของวรรคหลัง
มีสัมผัสระหว่างบาทที่สองกับสาม คือ
คำสุดท้ายวรรที่สี่สัมผัสกับคำสุดท้ายวรรคที่หก
ส่วนสัมผัสระหว่างบทนั้นจะแตกต่างจากแบบแรก
เนื่องจากให้คำสุดท้ายของบทแรกสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่สี่ของบทถัดไป (ดูตัวอย่าง)
ตัวอย่าง กลอน 4 แบบที่ 2
จักกรีดจักกราย
|
จักย้ายจักย่อง
|
|
ไม่เมินไม่มอง
|
ไม่หมองไม่หมาง
|
งามเนื้องามนิ่ม
|
งามยิ้มงามย่าง
|
|
ดูคิ้วดูคาง
|
ดูปรางดูปรุง
|
ดั่งดาวดั่งเดือน
|
ดั่งจะเลื่อนดั่งจะลอย
|
|
พิศเช่นพิศช้อย
|
พิศสร้อยพิศสุง
|
ช่างปลอดช่างเปรื่อง
|
ช่างเรืองช่างรุ่ง
|
|
ทรงแดดทรงดุ่ง
|
ทรงวุ้งทรงแวง
|
|
— กลบทจาตุรงคนายก, ศิริวิบุลกิตติ, หลวงปีชา (เซ่ง)
|
สัมผัสใน ไม่บังคับ แต่กวีมักจัดให้มีสัมผัสระระหว่างคำที่สองและคำที่สามของทุกวรรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น